การทำเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ เป็นรูปแบบที่ประยุกต์มาจากต้นเทียนมัดรวมติดลาย เป็นหนึ่งในรูปแบบของต้นเทียนที่ชาวอุบลราชธานีร่วมกันจัดทำขึ้นในประเพณีแห่เทียนพรรษาหรือบุญเข้าพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีการทำเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ในระยะแรกเกิดจากการแกะสลักต้นกล้วย มะละกอ ฟัก ไม้ต้นฝรั่ง ทำเป็นแม่พิมพ์สำหรับชุบขี้ผึ้งที่ต้มให้ละลาย และถอดแบบออกเป็นลวดลายไทยแบบง่าย ๆ เช่น ลายประจำยาม กระจังตาอ้อย บัวคว่ำ บัวหงาย นำไปประดับติดพิมพ์ลงบนต้นเทียน ต่อมามีการสร้างสรรค์ทำฐานต้นเทียนประดับด้วยรูปปั้นสัตว์และลายฉลุ ซึ่งเป็นต้นแบบของการทำองค์ประกอบต้นเทียนพรรษาในปัจจุบัน
ขั้นตอนและวิธีการทำเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้การออกแบบเทียนพรรษา โดยการร่างแบบที่จะจัดทำลงบนกระดาษ แล้วนำดอกผึ้งไปติดตามโครงสร้างของต้นเทียน ช่างเทียนจะเป็นผู้กำหนดว่าดอกผึ้งลายใดจะใช้กับส่วนใดของต้นเทียน
การต้มขี้ผึ้ง ทำเทียนพรรษา นำขี้ผึ้งแท้มาสับเป็นก้อนเล็ก ๆ ต้มในชามขนาดใหญ่หรือปี๊บ ใส่น้ำลงไปเล็กน้อยเพื่อป้องกันการไหม้และทำให้ขี้ผึ้งสะอาดขึ้น ระหว่างต้มหมั่นคนเพื่อให้เทียนละลายเร็ว เมื่อละลายดีแล้วยกลง ใช้กระบวยกรองขี้ผึ้งลงในชามขนาดเล็กโดยใส่น้ำเล็กน้อย เศษฝุ่นละอองที่ปะปนจะตกตะกอนลงในน้ำ ทิ้งให้ขี้ผึ้งแข็งตัวพอหมาด ๆ จึงนำไปพิมพ์ดอกผึ้ง
การหล่อต้นเทียนพรรษา การหล่อลำต้นและยอดของต้นเทียนจะใช้สังกะสีแผ่นเรียบทำเป็นแม่พิมพ์ขึ้นรูปทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางกว้างและความยาวตามต้องการ นำเหล็กมาทำแกนกลาง จากนั้นเทแบบด้วยขี้ผึ้งที่ต้มละลายแล้วลงในแบบพิมพ์จนเต็มปล่อยทิ้งไว้จนเย็น จะต้องใช้เวลาประมาณ 5-8 วัน แล้วแต่สภาพอากาศ จึงจะแกะแบบพิมพ์ออก
การกลึงต้นเทียนพรรษา
การกลึงต้นเทียนให้ได้ดีเป็นหน้าที่ของช่างกลึงเหล็กหรือไม้ เป็นขั้นตอนที่จะทำให้ต้นเทียนกลมเกลี้ยง เมื่อกลึงเสร็จแล้วขนาดของต้นเทียนติดพิมพ์จะต้องเล็กกว่าที่ต้องการเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะต้องมีการติดพิมพ์ดอกผึ้งเพิ่มเข้าไปอีก
การพิมพ์ดอกผึ้ง เทียนพรรษา
จะเริ่มจากนำแม่พิมพ์แช่น้ำให้อิ่มตัว ใช้ช้อนขูดผิวหน้าขี้ผึ้งที่กรองทิ้งไว้ให้แข็งตัว ขูดมาใช้ขนาดเท่าไข่ไก่แล้วนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน วักน้ำสบู่หรือน้ำละลายผงซักฟอกหยอดลงในแบบพิมพ์และลูบที่ขวดแก้ว นำขี้ผึ้งที่นวดแล้ววางและกดลงในร่องลายของแบบพิมพ์ แล้วใช้ขวดกดและคลึงขึ้ผึ้งให้แทรกเข้าไปทุกเส้นลายของแบบพิมพ์ คลึงขวดไปมาจนผิวหน้าของขี้ผึ้งแบนราบ จึงแกะแผ่นผึ้งออกมาวางรวมกันในถาด ทำไปทีละแผ่นจนได้จำนวนตามที่ต้องการ
การตัดลายดอกผึ้ง
นำแผ่นผึ้งที่พิมพ์ลายไว้แล้วไปวางบนแผ่นกระจก ใช้เหล็กตัดหรือมีดตัดลายโค้งงอตามแบบ ขณะตัดควรจุ่มปลายเหล็กตัดด้วยน้ำมันพืชเล็กน้อย จะทำให้ตัดได้ง่ายขึ้น เศษของขี้ผึ้งที่ตัดออกจะเก็บไว้เพื่อนำไปหลอมละลายใหม่เพื่อใช้ทำแผ่นผึ้งสำหรับงานซ่อมแซมต่อไป แยกดอกผึ้งลายต่าง ๆ ไว้คนละถาด เพื่อให้ง่ายและสะดวกในการหยิบไปใช้
ณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
เลขที่ 2 ถนนราชธานี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โทร: 04 5352 000 ต่อ 1500 อีเมล์ : human@ubru.ac.th , อีเมล์ฝ่ายงานวิจัยและบริการชุมชน Research.human.ubru@gmail.com